โรควุ้นตาเสื่อม
วุ้นตา มีลักษณะเป็นวุ้นใส ๆ อยู่ตรงกลางระหว่างเลนส์กับจอประสาทตา โดยปกติเมื่อคุณอายุ 40 ปี วุ้นตรงนี้ก็จะเริ่มเสื่อม จากลักษณะเป็นวุ้นก็จะกลายเป็นของเหลว และกลายเป็นสารน้ำ โดยเส้นใยโปรตีนซึ่งอยู่ภายในวุ้นตาจะตกตะกอนเป็นลักษณะคล้ายลิ่ม หรือเส้นใยที่หนาขึ้น จนทำให้เกิดเงาตกกระทบลงบนจอประสาทตา ทำให้เราเห็นเป็นเส้น หรือรอยขีด หรือหยากไย่ลอยไปมา เงาที่ลอยไปมานี้ คือ วุ้นตาที่มีการเสื่อมตัว เรียกว่า โรควุ้นตาเสื่อม (Vitreous degeneration) โรควุ้นตาเสื่อมเป็นโรคที่มักจะเกิดกับผู้มีอายุประมาณ 50 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันกลับพบโรคนี้ในวัยหนุ่มสาวคนทำงานออฟฟิศกันมากขึ้นจนน่าตกใจ เรียกได้ว่าโรควุ้นตาเสื่อมเป็นหนึ่งในโรค office syndrome ที่ทุกคนสามารถเป็นโรคนี้กันได้นะคะ งั้นเรามาทำความรู้จักโรควุ้นในตาเสื่อมกันดีกว่าคะ
อาการโรควุ้นตาเสื่อม
1. ทำให้เราจะมองเห็นจุดหรือเส้นรูปร่างต่างๆ เช่น คล้ายหยากไย่ลอยไปมา เหมือนคราบที่ติดกระจก จะเห็นชัดมากขึ้นเมื่อมองไปยังบริเวณที่มีสีสว่าง เช่น ท้องฟ้าขาวๆ ฝาห้องขาวๆ จะเห็นเป็นคราบดำๆ ลอยไปลอยมา จุดหรือเส้นเหล่านี้เกิดจากขณะที่น้ำวุ้นตาละลาย บางส่วนจะจับตัวกันเป็นตะกอน โดยทั่วไปจะเป็นมากขึ้นอย่างช้าๆ หรือคงที่เป็นเวลานาน หรือในบางรายอาจจางลงได้เอง2. อาการของโรคมาก จะเห็นแสงคล้ายฟ้าแล่บแปล๊บ ๆ ในเวลาค่ำหรือในที่มืด จะแสดงถึงอันตรายสุด ๆ ซึ่งถ้าปล่อยไว้ไม่รักษา อาจทำให้จอประสาทตาฉีกขาด ถ้าไม่รักษาก็อาจทำให้ตาบอดได้เช่นกัน
สาเหตุโรควุ้นตาเสื่อม
1. โรควุ้นตาเสื่อม จะเกิดกับผู้สูงอายุ หรือ คนที่มีอาชีพใช้สายตามากๆ เช่น ช่างเจียรไนเพชรพลอยที่ต้องใช้สายตาเพ่งมากๆ และคนที่มีสายตาสั้นมากๆ 2. การเล่นคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะ วัยเรียนและวัยทำงาน ไม่ว่าคุณจะเล่นเนต,เล่นเกมส์, อ่านบทความ,อ่านหนังสือ หรืออะไรก็ตามที่อยู่บนจอคอมพิวเตอร์ล้วนทำให้สายตาคุณเสียได้ทั้งสิ้น เพราะการเล่นคอมไม่เหมือนการอ่านหนังสือ
2.1.การมองตัวหนังสือที่อยู่บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ซึ่งมีลักษณะแขวนลอยอยู่ในจอ จึงทำให้ตาโฟกัสไม่แน่นอนกล้ามเนื้อลูกตาทำงานหนักทำให้สายตาเสีย
2.2.การเลื่อนบรรทัดหนังสือขึ้นลงเพื่อจะอ่านบรรทัดด้านล่างได้ ซึ่งมันจะเป็นการเลื่อนแบบกระตุก ซึ่งจะทำให้ตาต้องปรับโฟกัสบ่อยเกินไป ถ้าคุณชอบการอ่านหนังสือบนจอคอมพิวเตอร์จะทำให้คุณติดนิสัยมองอะไรก็ตามไม่ว่าใกล้หรือไกล จะปรับโฟกัสมองเพ่งอยู่เสมอ ผลคือ กล้ามเนื้อตาทำงานหนัก คุณจะเริ่มมองของที่อยู่ไกลๆ เบลอๆคุณจะไม่สามารถปรับโฟกัสมองของใกล้ แล้วมองไกล ได้ทันทีเหมือนเคย เพราะกล้ามเนื้อประสาทลูกตาจะล้าทำให้การปรับโฟกัสลูกตาเริ่มช้าลง
2.3.การพิมพ์ตัวหนังสือทีคุณต้องก้มบ้างเพื่อมองแป้มพิมพ์ มันจะทำให้ตาของคุณทำงานหนักต้องปรับโฟกัสบ่อยเกินไปเช่นกัน
2.4. แสงสว่างจากจอคอมพิวเตอร์ก็ส่งผลให้สายตาเสียเช่นกัน
2.5.การใช้จอคอมที่มีความกว้างมากเกิน ซึ่งจอคอมกว้างๆ นั้นเหมาะสำหรับการดูภาพ ดูหนัง แต่ไม่เหมาะกับการดูตัวหนังสือ เพราะว่าสายตาคนเรานั้นมีระยะการมองตัวอักษรที่ 1 ฟุต (12 นิ้ว) แต่จอคอมสมัยใหม่กลับมีความกว้าง 17 นิ้ว 19 นิ้ว หรือมากกว่านั้น ซึ่งมันกว้างเกินระยะกวาดสายตามอง จากขอบหนึ่งไปสู่อีกขอบหนึ่งทำให้ปวดทั้งคอทั้งตา ซึ่งขนาดของจอคอมพิวเตอร์ของคุณควรไม่เกิน 15 นิ้ว
ปัจจุบัน ไอไบ้ร์ท (I-BRYTE) สามารถป้องกันโรควุ้นตาเสื่อม ได้ผลเร็วสุด ยอดขายสูงที่สุด
วิธีรับประทาน ไอไบ้ร์ท (I-BRYTE)
1. ผู้ป่วยโรคตา ให้รับประทานวันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 2 แคปซูล2. รับประทานเป็นอาหารเสริม ผู้ใหญ่ วันละ 1 ครั้ง ครั้งละ 1 แคปซูล
ไอไบ้ร์ท (I-BRYTE) เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดที่ให้ผลจากการรับประทาน 100% เห็นผลจริง รวดเร็ว ชัดเจน จึงขายดีที่สุดในขณะนี้
ปริมาณและราคา 1 ขวดบรรจุ 30 แคปซูล ราคา 1,900 บาท
เลขที่ อ.ย. 13-1-02950-1-0033
สั่งสินค้าคลิกที่นี้
ดูข้อมูลที่ http://ibrytesaibua.blogspot.com
สั่งซื้อและเป็นตัวแทนจำหน่ายที่
คุณ สายบัว บุญหมื่น โทร. 088 415 3926
ID Line : bua300908
อีเมล์ sboonmuen@gmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น